วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

พลังงานต่ำ คุณค่าสูง แถมยังราคาประหยัด

            ก่อนอื่นถ้าผมถามว่าไครบ้างที่เคยทาน   "แตงโม"   ผมคิดว่าไม่น้อยกว่าร้อยละ 90  ต้องยกมือตามๆกัน   เพราะถ้าเอ่ยถึงแตงโม  ที่เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ   คุณค่าสูง  แถมยังราคาประหยัด  แล้วผมคิดว่าเกือบทุกคนต้องเคยทาน  บางคนอาจจะชอบทานเป็นพิเศษด้วยซ้ำ   เพราะรสชาติที่หวานชื่นใจโดยเฉพาะเวลาที่นำออกจากตู้เย็นใหม่ๆ    ทั้งรสหวานบวกกับความเย็นมันทำให้หลายคนอดใจไม่ไหวจนต้องหามาทานกันเป็นประจำ

แล้วคุณเคยสงสัยไหมว่าแตงโมมาจากที่ไหน..... แล้วไครเป็นคนนำมาปลูก ????

          วันนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักับ  "คุณแตงโม"  จนหมดเปลือกกันเลยทีเดียว

                   แตงโม  ชื่อสามัญ คือ   Watermelon  ;  ชื่อ  วิทยาศาสตร์   Citrullus   lanatus  ( Thnb.)   Mathum  &   Nakia   เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์แตง   Cucurbitaceae    แตงโมเป็นพืชล้มลุกประเภทเถาเลื้อย ลักษณะของต้นจะเลื้อยไปตามพื้นดิน  และโตเร็วใบมีลักษณะพิเศษ   เป็นแผ่นเดียวกันตลอดมีลักษณะเป็นแฉกๆ โคลนใบกว้างปลายใบแหลมและมีขนบริเวณต้นปกคลุม  ดอกมีสองเพศแยกออกจากกันบนต้นเดียวกัน  มีกลีบดอกสีเหลืองอ่อน  ผลของแตงโมมีทั้งแบบกลม และทรงกระบอก   แต่ในปัจจุบันมีการทำแม่แบบเพื่อให้แตงโมมีรูปร่างหน้าตาตามที่ต้องการ  เช่น  รูปหัวใจ    รูปสี่เหลี่ยม    เป็นต้น   ผลของแตงโมก็จะมีขนาดแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย  เช่น  ชนิดพันธุ์    การปลูกและการดูแล    เป็นต้น   ส่วนมากก้จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ  15 - 20  เซนติเมตร   เปลือกมีสีเขียวอ่อน  มีลายเป็นสีเขียวเข้มเป็นลายยาว     หรือบางชนิดเปลือกก็จะมีสีเขียวเข้มจนถึงสีดำ    เนื้อในที่นิยมทานก็จะมีสีแดงและสีเหลือง   แต่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าแตงโมมีสีน้ำเงิน   และ  สีส้มก็ยังมี ส่วนชื่อที่ใช้เรียก  "แตงโม "  ก็จะแตกต่างกันออกไป  เช่น
    ภาคอีสาน เรียกว่า  บักโมหรือ บักแตงโม  
    ภาคเหนือเรียกว่า  บะเต้า  
    คนตรังเรียก  แตงจีน 
    ส่วนชื่อสามัญ  Watermelon   แปลว่า  "แตงน้ำ"   เพราะในแตงโมมีน้ำเป็นส่วนประกอบเป็นส่วนใหญ่




แตงโมสี แดง   เหลือง   ส้ม   และน้ำเงิน

   




แตงโมรูปร่างต่างๆ

ขอขอบคุณภาพจาก   www. mthai.com
และภาพจาก    the...cube







บ้านเกิดของแตงโม......มาจากไหนน้าาาา

                   แตงโมมีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกาแถบทะเลทรายคาลาฮาลี  โดยที่แตงโมจะเกิดเองเหมือนพืชทั่วๆไปและมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง     เนื้อของแตงโมก็มีหลายรสชาติมีทั้ง รสหวาน  จืด  และรสขม      ต่อมามีการนำมาปลูกโดนชาวอียิปต์เป็นกลุ่มแรกที่นำแตงโมมาปลูกไว้กิน    เมื่อ  4,000 ปีมาแล้ว   ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่  10   และปัจจุบันประเทศที่มีการปลูกแตงโมมากที่สุดในโลกคือประเทศจีน    
                    และประเทศไทยในปัจจุบันแตงโมถือว่าเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมทานกันอย่างแพร่หลายทั้งในสังคมเมือง  และสังคมชนบท    ( ผู้เขียนเกิดมาในสังคมการเกษตร    เคยปลูกแตงโมไว้กินและเหลือจากกินก็จะนำไปขาย        คนชนบทจะปลูกแตงโมกินเองเราก็จะไม่ใส่ยาฆ่าแมลงหรือสารเร่ง    แต่จะดูแลและบำรุงให้แตงโมโตด้วยวิธีทางธรรมชาติ )      ในทางกลับกันการปลูกแตงโมไว้ขายพื้นฐานเลยก็คือต้องปลูกจำนวนมากและใช้ระยะเวลาสั้นๆ    เพื่อให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค      เพราะ ฉนั้นการปลูกและดูแลแตงโมในปัจจุบันก็จะใช้สารเคมี   และสารเร่งการเจริญเติบโตต่างๆ    ผลที่ตามมาคือสารเคมีตกค้างในผลแตงโม    มีคำพูดว่าขนาดช้างที่ตัวใหญ่ๆกินแตงโมที่มีสารพิษก็ยังตาย   ทำให้หลายคนไม่กล้าทานแตงโมทั้งๆที่แตงโมมีคุณประโยชน์สูง   เพราะฉนั้นการหลีกเลี่ยงการกินแตงโมที่มีสารพิษที่ดีที่สุดคือ   รู้จักที่ไปที่มาของการผลิตหรือที่ปลูกเพระการทำให้แตงโมที่มีสารเคมีตกค้างปลอดสารทำได้ยาก  
         (  ครั้งต่อไป  ผูเขียนจะนำเสนอวิธีการเลือกแตงโมให้ได้รสหวาน  และมีคุณภาพดีมาฝาก  รวมทั้งเคล็ดลับการเลือกและแตงโมปลอดสารและการล้างแตงโมและผักผลไม้ให้ปลอดสารเคมีมาฝาก )




   
             
                  


ไม่มีความคิดเห็น: