วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดลับอายุยืนของปู่เย็นจากการดื่ม.....ทุกเช้า......แล้ว....ดีอย่างไร ???




น้ำเต้าหู้มีประโยชน์อย่างไร ?

      
          นายเย็น แก้วมะณี หรือ "ปู่เย็น"  เจ้าของสมญานาม "เฒ่าทระนง" แห่งลุ่มน้ำเพชรบุรี    ย้อนกลับไปคืนวันอังคารที่  22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 รายการ "คนค้นฅน" ได้หยิบยกชีวิตชายชราวัยซึ่งขณะนั้นอายุ 105 ปี (ปัจจุบันอายุ 108 ปี) ที่อยู่อย่างพอเพียง เรียบง่าย และทรนงตน มานำเสนอให้เป็นข้อคิด กับประโยคเด็ดๆ "ดูแต่หอยซิ ไม่มีมือไม่มีตีนมันยังหากินเองได้ ประสาอะไรกับคนมีมือมีเท้า หากินเองไม่ได้ก็อายหอย"  
        หากพูดถึง "ปู่เย็น"  หลายคนคงถึงเรื่องของการมีอายุที่ยืนยาว  และการใช้ชีวิตที่แสนจะเรียบง่ายของปู่เย็นผู้เขียนเคยได้อ่านหนังสือ    ชื่อ ปู่เย็น เป็นอยู่  จนจบเล่มและมีข้อความที่ชวนให้ผู้เขียนสดุดตาและอยากนำมาเผยแพร่ต่อ  ปู่เย็นบอกว่าเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่ทำให้ปู่เย็นอายุยืนคือ  ทุกๆเช้าที่ปู่เย็นจะเอาปลามาขายจะแวะซื้อน้ำเต้าหู้เป็นประจำ   ทำให้ปู่เย็นแข็งแรงและมีอายุยืนยาวถึง 108 ปี






                                                    ที่มาของรูปจาก   http://www.naiin.com

       น้ำเต้าหู้ หรือ นมถั่วเหลือง เป็นเครื่องดื่มซึ่งทำจากการบดถั่วเหลืองและนำไปต้มกรองจนเจือจางลง อาจปรุงด้วยน้ำตาลและอื่น ๆ รับประทานได้ทันที นิยมรับประทานเป็นมื้อเช้าคู่กับปาท่องโก๋ หรือทำเป็นน้ำเต้าหู้ทรงเครื่องโดยใส่สาคู ลูกเดือย ข้าวบาร์เลย์ หรือธัญพืชชนิดอื่น ๆ ตามใจชอบ   และเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีสำหรับผู้ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ หรือสำหรับคนที่บริโภคเนื้อสัตว์ ก็สามารถดื่มน้ำเต้าหู้เป็นอาหารเสริมได้เพราะถั่วเหลืองที่นำมาทำน้ำเต้าหู้นั้นมีโปรตีนสูง และมีคุณค่าทางโภชณาการใกล้เคียงกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์






ประโยชน์ของน้ำเต้าหู้

ถั่วเหลืองมีโปรตีนสูง ถั่วเหลืองจึงเป็นแหล่งโปรตีนสำหรับผู้ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ เพราะถั่วเหลืองมีคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับโปรตีนจากสัตว์ ถ้าเราบริโภคถั่วเหลืองในปริมาณที่สูงพอ ร่างกายจะได้รับโปรตีนเพียงพอกับความต้องการได้
นอกจากถั่วเหลืองเป็นแหล่งไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ในถั่วเหลืองยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกมากมาย คือคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน A, B, B1, B2, B6, B12, ไนอาซิน และวิตามิน C, D, E อีกด้วย ในเมล็ดถั่วเหลืองนั้นยังมี ลซิทินช่วยบำรุงสมอง เพิ่มทักษะความจำ ลดไขมัน และลดโคเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้ว
ที่มา  :  จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


คุณประโยชน์อื่นๆที่น่าสนใจในผู้หญิงและผู้ชาย 

  • ช่วยลดและป้องกัน โรคมะเร็งเต้านม และ บรรเทาอาการ ข้างเคียงจาก ภาวะหมดประจำเดือน
  • ช่วยป้องกันและแก้ไข โรคหัวใจ เนื่องจากเป็นอาหารที่ไม่มีคอเรสเตอรอล มีไฟเบอร์สูง นอกจากนี้ยังมี โอเมกา 3 และวิตามินอี
  • ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากถั่วเหลืองมีไฟเบอร์สูง ไฟเบอร์เหล่านี้จะช่วยทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร 
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ได้
  • เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญสำหรับนักมังสวิรัต เพราะถั่วเหลืองมีสารอะมิโน เอซิด ที่จำเป็นต่อร่างกาย
  • ใช้แทนน้ำนมวัว ในเด็กที่แพ้นมวัวและแพ้แลคโตสในนม
  • ใช้เป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะถั่วเหลืองมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบน้อย และยังไม่มีคอเลสเตอรอล


ข้อควรระวัง

น้ำเต้าหู้ส่วนมากนั้นมีน้ำตาลเยอะเกินไป โดยเฉพาะที่ขายกันตามร้านทั่วไปนั้น ผู้ผลิตมักจะใส่น้ำตาลทรายในระดับที่มาก เพราะต้องการเน้นไปที่รสหวาน เนื่องจากน้ำเต้าหู้นั้นมักจะมีกลิ่นเหม็นเขียวจากถั่วเหลืองอยู่บ้าง   ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะใช้รสหวานดับกลิ่นชนิดนี้ ซึ่งหากรับประทานเจ้าน้ำเต้าหู้ที่ผสมน้ำตาลมากๆ จำเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคอ้วน  โรคเบาหวาน  ความดันโลหิตสูงได้นั่นเองครับ  เพราะฉนั้นเวลาซื้อควรสั่งที่ใส่น้ำตาลน้อยๆ  หรือไม่ใส่น้ำตาลเลยก็ยิ่งดี    

ขอให้อร่อยกับการดื่มน้ำเต้าหู้และมีอายุยืนยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  น่ะคราฟฟฟฟ







วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

หากหนุ่มๆสาวๆ อยากลดน้ำหนัก (โดยเฉพาะพุง) 6 อย่างนี้ขาดไม่ได้????



           วัยรุ่นเป็นวัยที่มีความพิถีพิถันในเรื่องรูปร่างของตัวเองค่อนข้างมาก วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะมีความรู้สึกว่าควรจะลดน้ำหนัก ซึ่งบางคนก็ผอมอยู่แล้ว ก็ยังต้องการที่จะลดน้ำหนักให้ผอมลงไปอีก ความจริงแล้วการลดน้ำหนักโดยที่ไม่รู้ว่าน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติอยู่แล้วหรือไม่นับว่าไม่ถูกต้อง หากน้ำหนักตัวต่ำกว่าปกติแล้วยังไปลดน้ำหนักลงอีกก็จะเป็นอันตรายได้ ทั้งนี้เพราะน้ำหนักที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป ก็มีผลเสียต่อสุขภาพ
             เพราะฉนั้นวันนี้ทางเรา    naturalhealththailand.blogspot.com   ได้นำเคล็ดลับดีๆที่ช่วยให้การลดน้ำหนักง่ายและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ   นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ บอกว่า พร้อมแนะนำของกินกรุบกริบที่กินแล้วไม่อ้วน แถมหาง่าย ใกล้ตัว และราคาก็ไม่แพงเลย เรียกว่า อยู่ท้อง ไร้พุง สบายกระเป๋า 







1) เม็ดแมงลัก “อาหารลดพุงแสนคลาสสิก แต่ประโยชน์ล้น เพราะมีพระเอกสำคัญคือ วิตามินเอที่สูงปรี๊ดกับ เส้นใยละลายน้ำ (Soluble fiber) ที่ดูเป็นวุ้นใส เมื่อแช่น้ำนั่นละครับ ช่วยพองในท้องให้อิ่มแต่ไม่อ้วน” หมอต้นให้เทคนิคกินง่ายคือ แช่น้ำให้พองเต็มที่ก่อน อย่าใจร้อน แล้วค่อยปรุงรับประทาน

2) ถั่วลิสง ของกินช่วยลดหิวได้ ใช้แทนของว่างที่แสนอ้วนอย่างมันฝรั่งทอด “การรับประทานถั่วลิสงคั่วแบบไม่ปรุงรสจะให้ความรู้สึกอิ่มท้องจาก ใยอาหารถั่ว ที่มีอยู่อย่างอุดม แม้ถั่วจะมีพลังงานสูง แต่ด้วยใยอาหารของมันกับโปรตีนนี่เองครับที่ช่วยให้รู้สึกไม่หิวจนเกินไป”

3) แอปเปิ้ลเขียว เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วย เพคติน ช่วยให้อิ่ม หยิบทานง่าย และเก็บไว้ได้นาน “เก็บไว้ทานในตู้เย็นที่ออฟฟิศก็ได้ ใช้เป็นมาตรวัดความหิวแบบง่ายๆ คือ ถ้านึกหิวขึ้นมาให้ถามตัวเองว่าหิวขนาดกินแอปเปิ้ลได้สักลูกไหม ถ้าใช่ก็อย่ารีรอเลยครับ---รีบหยิบมากัดกระแทกท้องทันที”

4) มะนาว “หามะนาวติดบ้านหรือออฟฟิศไว้ ไม่มีเวลาจริงๆ ก็บีบเข้าปากเลยก็ยังได้ น้ำมะนาวที่ขมนิดๆ จะช่วยให้รู้สึกหายหิวได้นานนับ ชั่วโมงหลังจากกิน เพราะสารพิเศษจากเปลือก” หมอต้นแนะต่อว่า “บางครั้งลองหาโอกาสกิน ‘เมี่ยงคำใส่ชิ้นมะนาว’ แทน ‘เลม่อนพาย’ ดูก็ดีนะครับ”

5) ทูน่า ติดทูน่ากระป๋องไว้ในทุกที่ จะใส่ในกระเป๋าถือหรือเป้ทำงานก็ได้ เก็บง่าย อยู่ได้ทนดี เพราะทูน่าช่วยให้อิ่มจากโปรตีนเน้นๆ “เปี่ยมไปด้วยคุณค่าจากไขมันต้านชราอย่าง โอเมก้า 3 ที่มีอยู่ในปลากระป๋องเช่นกัน”

6) ไข่ต้ม “อาหารลดอ้วนที่ได้ผลชะงัด” หมอต้นคอนเฟิร์ม “การรับประทานไข่มีส่วนช่วยลดไขมันได้จากงานวิจัยใหม่ๆ ส่วนไข่ขาวก็เป็นโปรตีนล้วน ที่ช่วยให้ไม่โทรมเวลาลดน้ำหนัก เพราะมันสร้างกล้ามเนื้อที่เผาผลาญไขมันโดยธรรมชาติ”

ขอบคุณ : นพ.กฤษดา ศิรามพุช,พบ.(จุฬาฯ)
ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
American Board of Anti-aging medicine
และรายการ คนสู้โรค ไทยพีบีเอส.

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557



ต่อไปเราจะไม่เป็นภูมิแพ้อีกแล้ว...


         สวัสดีครับวันนี้มีสารดีๆมาฝาก  สำหรับคนรักสุขภาพเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำ  สูตรกล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง สุดยอดยาอายุวัฒนะ  ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดสูตรนี้หรือเขียนมันขึ้นมาแต่บังเอิญเข้าไปศึกษาในเว็บไซต์หนึ่งเค้าบอกว่ามี   สูตรกล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง สุดยอดยาอายุวัฒนะ  ที่ดีมากๆผมก็เลยเอามาฝากให้ไปลองทำกันดูที่บ้านครับ




สูตรกล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง สุดยอดยาอายุวัฒนะ
ส่วนประกอบ


1 พริกไทยดำ บุบๆ พอแตก 100 เม็ด
2 ขิงสดฝานเป็นแง่งบางๆ 1 แง่ง
3 กล้วยน้ำว้าสุกคาต้น 1 หวี
4 น้ำผึ้งแท้
5 โหลแก้ว ขนาด พอประมาณ(ให้สูงกว่ากล้วยวางแนวตั้ง)
วิธีทำ
นำพริกไทยและขิงสดเรียงไว้ก้นโหลปลอกกล้วยน้ำว้าใส่เรียงตามลงในแนวตั้ง...
เรียงจนกล้วยเต็มโหล แล้วเติมน้ำผึ้งแท้ ตามลงไปจนท่วมกล้วยมิด
ปิดฝาโหลตั้งทิ้งเอาไว้ สามวัน
จากนั้นนำกล้วยมากินเช้า 1 ลูก เย็น 1 ลูกถ้ากล้วยใกล้หมดให้เติมกล้วยลงไปใหม่
หมักต่อไป...ทานได้เรื่อยๆ

สรรพคุณ : บำรุงดี ภูมิแพ้หาย ร่างกาย แข็งแรง อายุยืน










 




          เข้าสู่หน้าฝนแล้ว สภาพอากาศที่อับชื้นและเย็นลงเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรคโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ภูมิต้านทานในช่วงนี้ไม่แข็งแรงแล้วล่ะก็ เชื้อโรคจะเข้าประชิดตัวและทำร้ายคุณได้ทันที ทำให้เชื้อไวรัสและแบคทีเรียแพร่ขยายและก่อโรคได้อย่างรวดเร็ว 



           การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง และที่สำคัญอีกอย่างคือ เน้นการรับประทานผักและผลไม้ เพราะสารอาหารที่รับประทานเข้าไปมีส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง และรับมือกับโรคในช่วงหน้าฝนนี้ได้ สารอาหารต้านโรคที่แนะนำ มีดังนี้



• เบต้าแคโรทีน พบมากในผักสีเขียว และผลไม้ที่มีสีส้ม เหลือง หรือแดง เช่น บร็อคโคลี ผักบุ้ง แครอท มะเขือเทศ มะละกอ
• วิตามินซี พบในผักและผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม ฝรั่ง มะนาว กีวี พริกหยวก
• วิตามินอี พบมากในผักใบเขียว มะเขือเทศ กีวี ไข่ ถั่ว นม เนื้อปลา น้ำมันพืช
• วิตามินบี พบในผักใบเขียว นม เนื้อสัตว์ ตับ ไข่ และธัญพืชจำพวก ถั่ว ข้าว ข้าวซ้อมมือ
• ซีลีเนียม พบในอาหารทะเล ตับ จมูกข้าวสาลี กระเทียม บร็อคโคลี ข้าวกล้อง
• สังกะสี พบในหอยนางรม ผลิตภัณฑ์นม เนื้อไก่ ไข่ ถั่วลิสง
• กระเทียม มีสารอัลลิซิน (allicin) และซัลไฟด์ (sulfides) ซึ่งเป็นสารต้าน#อนุมูลอิสระ ทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค และช่วยเสริมภูมิต้านทาน
• กรดโอเมก้า 3 คือกรดไขมันที่จำเป็นในการสร้างเม็ดเลือดขาว และแอนติบอดี้ พบมากในไข่ ปลาทะเล ถั่วเหลือง น้ำมันตับปลา
• โยเกิร์ต เต็มไปด้วยโปรไบโอติกส์ ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันไปจนถึงระดับเซลล์ ซึ่งช่วยปกป้องร่างกายจากไวรัส แบคทีเรีย รวมทั้งยังกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวและแอนติบอดี้ให้กำจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ที่มา: สสส.

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ไม่น่าเชื่อ "หอมแดง" “รักษาสิวอักเสบและลดรอยจุดด่างดำ” ในไม่กี่วัน!!!


                        ไม่น่าเชื่อ"หอมแดง" 
           “รักษาสิวอักเสบและลดรอยจุดด่างดำ”  ในไม่กี่วัน!!!


ถ้าพูดถึง “หอมแดง” หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงเครื่องปรุงที่ช่วยดับกลิ่นคาวและเพิ่มรสชาติให้อาหารชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไข่ลูกเขย ต้มโคล้ง แกงเลียง ต้มยำ ฯลฯ แต่คุณทราบหรือไม่ว่า หอมแดง นั้นนอกจากจะนำมาปรุงในอาหารแล้วยังมี ประโยชน์อีกมากมายโดยเคล็ดลับสุขภาพดีวันนี้จะพาคุณไปทำความ รู้จักกับประโยชน์ของหอมแดงในแง่มุมต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น   ใครกำลังกังวลหรือเครียดกับปัญหาสิวอักเสบ   ที่ผิวหน้าคงจะต้องรีบตั้งใจดูเคล็ดลับที่นำมาฝากกันหน่อยแล้วครับ    คือของของของ"หอมแดง" ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการอักเสบบวมแดงของสิวได้อย่างดีและที่สำคัญยังประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้มากอีกด้วย   



หอมแดง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Allium ascalonicum) เป็นพืชในวงศ์ Alliaceae โดยยึดเอา French grey challot หรือ griselle เป็นหอมที่แท้จริง จัดอยู่ในสปีชีย์นี้ มีการเพาะปลูกในเอเชียกลางและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนความหลากหลายอื่นที่มีคือ Allium cepa var.aggregatum (หอมแบ่ง:multiplier onions) หรือที่รู้จักกันในชื่อ A. ascalonicum
เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ ของประเทศในถบ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยส่งออกหอมแดง ไปยังประเทศมาเลเซียเป็นจำนวนมาก การซื้อขายส่วนใหญ่เป็นหัวๆ ชั่งขายเป็นกิโลกรัม และมัดขายเป็นกำๆ แต่ก็ขายตามน้ำหนัก เช่นเดียวกัน[1] ในประเทศไทยปลูกกันมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ แต่หอมแดงที่มีชื่อเสียงว่าเป็นหอมแดงคุณภาพดีได้แก่หอมแดงจากจังหวัดศรีสะเก
จาก  :  วิกิพีเดีย  http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87

คุณค่าทางอาหา

คุณค่าทางอาหารของหอมแดง 
ในส่วนที่รับประทานได้ 100 กรัม คือ
มีน้ำเป็นส่วนประกอบ                                    88        กรัม
โปรตีน                                                            1.5       กรัม
ไขมัน                                                              0.3       กรัม
คาร์โบไฮเดรต                                                9          กรัม
ใยอาหาร                                                         0.7       กรัม
เถ้า (ash)                                                        0.6       กรัม
แคลเซียม                                                        36        กรัม
ฟอสฟอรัส                                                       40        กรัม
เหล็ก                                                                 0.8       กรัม
วิตามินเอ                                                           5          I.U.
วิตามินบี 1                                                         0.03     มิลลิกรัม
วิตามินซี                                                            2          มิลลิกรั
พลังงาน                                                            160      กิโลแคลอรี
ที่มา : อารีย์  โอบอ้อมรัก. 2553. 7 วัน 7 เมนู สมุนไพรไร้โรค. สำนักพิมพ์เอเชียบูรพา : กรุงเทพฯ

วิธีการใช้หอมแดงรักษาสิว
สรรพคุณ : นอกจากสรรพคุณทางยาในด้านอื่นๆ ของหอมแดงแล้ว หอมแดงยังมีสรรพคุณในการใช้รักษาปัญหาสิวด้วย เนื่องมาจากในหอมแดง มีสารที่ช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาสิวด้วย ทำให้สามารถช่วยลดการอักเสบของสิว ประเภทสิวอักเสบ ไม่ให้รุนแรงเพิ่มขึ้นได้
การนำไปใช้ : ใช้หอมแดงประมาณ 1-2 หัวเล็ก นำมาปอกเปลือก และล้างทำความสะอาด จากนั้น ให้ทำการหั่นและซอยบางๆ จนเป็นชิ้นขนาดเล็กๆ ให้นำเอาส่วนที่ได้นี้ มาพอกบริเวณหัวสิว ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำทุกวันก่อนนอน จะทำให้สิวยุบเร็วขึ้น และไม่ทิ้งร่องรอยจุดด่างเอาไว้ด้วยค่ะ
         
ส่วนข้อควรระวังในการใช้ประโยชน์ จากน้ำหอมแดงคือ ในหัวหอมแดงจะมีสารกำมะถันซึ่งทำให้แสบตา แสบจมูกและทำให้ผิวหนังมีอาการระคายเคือง ปวดแสบปวดร้อน จึงไม่ควรทาบริเวณจุดที่ใกล้เคียงกับที่กล่าวมา 



วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

14 ตำแหน่งสิวบนใบหน้า บอกโรคได้




14 ตำแหน่งสิวบนใบหน้า บอกโรคได้!



ที่มา : http://health.kapook.com/view1637.html


โซนที่ 1 ,  3   หน้าผากด้านซ้าย
เกี่ยวข้องกับ การย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะ ต่อมหมวกไต
สาเหตุ   มีความเครียดสูง และเรื่องของการรับประทานอาหารที่ไท่เป็นประโยชน์   เวลาล้างหน้าล้างไม่ค่อยสะอาด  และทารองพื้นหรือแต่งคิ้ว มากไป

โซนที่ 2 หว่างคิ้ว
เกี่ยวข้องกับ  ตับ
สาเหตุ    อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส (ดื่มนมไม่ได้)รับประทานอาหารรสจัดหรืออาหารกินอาหารดึกเกินไป

โซนที่ 4,10 ใบหูทั้ง 2 ข้าง
เกี่ยวข้องกับ   ผิวบริเวณหูนี้เป็นผลพวงของไต 
สาเหตุ   ล้างแชมพูหรือสบู่ออกไม่หมด ใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไป ดื่มกาแฟ แอลกอฮอล์หรือกินเนื้อสัตว์มากเกินไป

โซนที่ 5,9 แก้มทั้ง 2 ด้าน
เกี่ยวข้องกับ   แก้มส่วนบน ไซนัสและปอด แก้มส่วนล่าง เหงือก และฟัน
สาเหตุ   สูบ บุหรี่จัด หรือแพ้ควันบุหรี่ ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง หรืออาจใช้บลัชออนและรองพื้นไม่เหมาะสม ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้มอาจบ่งบอกถึงปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็น ๆ หายๆ ที่แก้มด้านล่างอาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน หรือโทรศัพท์มือถือไม่สะอาด

โซนที่ 6,8 รอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง
เกี่ยวข้องกับ   ไต และปัญหาภูมิแพ้
สาเหตุ  เครื่องสำอางทีใช้อาจไม่เหมาะกับผิว หรือใส่แว่นที่เสียดสีมาก รอยคล้ำอาจเกิดจากการมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก หรือพักผ่อนน้อย เปลือกตาหากมีความระคายเคืองอาจมาจากการเป็นภูมิแพ้ หรือขาดสารอาหาร

โซนที่ 7 จมูก และเหนือริมฝีปาก
เกี่ยวข้องกับ   หัวใจ และระบบสืบพันธุ์
สาเหตุ   หากมีผิวสีแดงเข้มที่จมูก อาจบ่งบอกถึงโรคความดันโลหิตสูง การอุดตันหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ บอกถึงผลกระทบจากฮอร์โมน เช่นกำลังมีประจำเดือน วัยทอง การใช้ยาคุมกำเนิด

โซนที่ 11,13 ใต้ริมฝีปากด้านซ้าย และขวา
เกี่ยวข้องกับ   รังไข่
สาเหตุ   อาจทำความสะอาดได้ไม่พอ หรือมาจากความสมดุลทางฮอร์โมน หากมีปัญหาการอุดตันช่วงใบหู อาจแสดงว่าฟันกรามมีปัญหา หรือว่าเพิ่งผ่าตัดฟันมา หรืออาจเกิดจากการมีรอบเดือน

โซนที่ 12 ปลายคาง
เกี่ยวข้องกับ   กระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก
สาเหตุ   อาจกินอาหารรสจัดเกินไปจนลำไส้มีปัญหาในการดูดซึม

โซนที่ 14 ลำคอ และหน้าอก
เกี่ยวข้องกับ   สมองและจิตใจ
สาเหตุ   ความเครียด    หากคุณมีสิวบริเวณนี้แล้วล่ะก็ แสดงว่าคุณกำลังเครียดสูง

  ที่มา : http://www.dek-d.com/board/view/2180575/ :  


วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สูตรลับหน้าใส ของสาวๆที่มักนอนผิดเวลา


การนอนเป็นสิ่งที่สำคัญคุณว่าไหม ????

นอนน้อย ส่งผลเสียกับร่างกายอย่างไร?

            การนอนหลับอย่างเพียงพอ ร่างกายของคุณจะทำการซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่เราหลับสนิท การผลิต Growth hormone จะสูงขึ้นมาก ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้ช่วยทำการซ่อมแซมและสร้าง เซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกาย รวมถึง ผิวหนังของเราด้วย
            วัยรุ้นในปัจจุบันต้องเจอกับปัญญหาเหล่านี้   เพราะหลายๆคนใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับหน้าจอและอินเตอร์เน็ต    จนลืมเวลาของการพักผ่อนทำให้เกิดปัญหาหลายหลายอย่างตามมา  โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพ      การพักผ่อนไม่เพียงพอ เท่ากับ การตัดช่วงเวลาในการทำการซ่อมแซมและสร้าง เซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกายให้น้อยลง ซึ่งผลลัพธ์ จะทำให้ ร่องลึกและริ้วรอยดูชัดขึ้น จุดด่างดำหายช้าลง แถมผิวพรรณยังดูหมองคล้ำ แห้งกร้าน ลงเช่นกัน



 การนอนกับผิวพรรณ

         การนอนหลับกับความงามเป็น 2 เรื่องที่สำคัญสำหรับสาวๆ ผิวพรรณที่สวยงามสามารถเสริมสร้างได้จากการนอนหลับที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากช่วงเวลาในการพักผ่อนนั้น สมองและร่างกายของคนเราจะใช้เวลานี้เพื่อซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังหรืออวัยวะที่ สึกหรอ ดังนั้น การนอนหลับที่เหมาะสมและเพียงพอ จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพและความชราของผิว พรรณของมนุษย์ เพราะขณะที่เราหลับร่างกายของเราจะหลั่งสารที่ชื่อว่า "เมลาโทนิน" ที่ถูกสร้างมากที่สุดในเวลากลางคืนในขณะที่เราหลับ และจะถูกสร้างน้อยลงเมื่อเราตื่น 

สารหรือตัวยาที่ทำให้หน้าขาว 
ทราบหรือไม่ว่า สารหรือตัวยาชนิดใดที่ทำให้ผิวหน้าขาว 
กลูตาไธโอน
ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ต้านการเสื่อมของเซลล์ผิว ส่งผลให้ผิวหน้า ขาวสวยใส เปล่งปลั่งไร้รอยด่างดำ รวมถึงผิวทั่วเรือนร่าง เช่น ใต้วงแขน ริมฝีปาก และบริเวณหัวนม ให้ขาวอมชมพู
 
สารสกัดจากเปลือกสน
ทำให้ผิวขาวใส โดยลดปฏิกิริยาของผิวหนังเมื่อถูกแสงแดด ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ลดขนาดและความเข้มของฝ้า กระและช่วยปรับสภาพผิวให้กลับขาวใสขึ้น
 
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
สารต้านอนุมูลอิสระในเมล็ดองุ่น ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ทำให้เนื้อเยื่อโครงสร้างผิวแข็งแรง ปกป้องเนื้อเยื่อโครงสร้างผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ลดการเกิดริ้วรอย ลดความหยาบกร้าน หมองคล้ำ ทำให้ผิวใส เรียบเนียน
 
ชาเขียวสกัด  
ปกป้องและรักษาผิวจากการทำลายของมลภาวะ โดยเฉพาะแสงแดด ช่วยฟื้นฟูและปรับสภาพผิว ให้กลับคืนสู่สภาพปกติ ช่วยให้ผิวขาวขึ้นและชะลอการเกิดริ้วรอย
โคเอนไซม์คิวเทน
ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว บำรุงผิวให้แข็งแรง ลดการเกิดริ้วรอย ด้วยการเร่งการผลิตคอลลาเจน ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เพิ่มความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่นแข็งแรง

วิตามินซี 
เสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยลดการเกิดริ้วรอย ลดการถูกทำลายของเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระ ช่วยคงความแข็งแรงของผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวและเผยผิวขาวเนียน

 
สารสกัดจากมะเขือเทศ 
ลดรอยดำ และความหมองคล้ำจากแสงแดด ลดการถูกทำลายของผิว ช่วยปกป้องจาการทำลายของอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเกิดริ้วรอย

 
วิตามินอี 
เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดเลือนริ้วรอย 
ซีลิเนี่ยม
 ลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ทำงานเสริมกับวิตามินซี และ วิตามินอี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ กลูตาไธโอน
ที่มา :  http://women.mthai.com/beautytipandtrick/18552.html
สูตรพอกหน้าใสง่ายๆ
ส่วนผสม

  • ข้าวโอ๊ต 2 ช้อนโต๊ะ
  • มะเขือเทศลูกใหญ่ปั่นละเอียด 2 ลูก
  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
   นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมกัน ทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15-30 นาทีแล้วล้างออก หากเหลือเก็บใส่กล่องแช่เย็นได้นาน 1 สัปดาห์

มันเทศช่วยให้ลดน้ำหนักได้ 3 กิโลได้ในชั่วข้ามคืน!!!


           

           เมื่ออาหารการกินในยุคปัจจุบันอุดมสมบูรณ์ มีสีสันสวยงาม รวมไปถึงรสชาติที่หลากหลายชวนให้ลิ้มลอง แต่อย่างไรก็ตาม “ความอ้วน” เป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ที่ไม่มีใครอยากที่จะเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะทำให้บุคลิกภาพดูไม่ดีแล้ว ยังได้โรคบางชนิดที่เป็นอันตราย อาทิเช่น ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินหายใจหรือปอด เป็นต้น
         
           วัยรุ่นเป็นวัยที่มีความพิถีพิถันในเรื่องรูปร่างของตัวเองค่อนข้างมาก วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะมีความรู้สึกว่าควรจะลดน้ำหนัก ซึ่งบางคนก็ผอมอยู่แล้ว ก็ยังต้องการที่จะลดน้ำหนักให้ผอมลงไปอีก ความจริงแล้วการลดน้ำหนักโดยที่ไม่รู้ว่าน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติอยู่แล้วหรือไม่นับว่าไม่ถูกต้อง หากน้ำหนักตัวต่ำกว่าปกติแล้วยังไปลดน้ำหนักลงอีกก็จะเป็นอันตรายได้ ทั้งนี้เพราะน้ำหนักที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป ก็มีผลเสียต่อสุขภาพ  แต่ในวันนี้เรามีเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยน้อยเกี่ยวกับการลดความอ้วนมาฝากกัน   

มันเทศช่วยให้ลดน้ำหนักได้ 3 กิโลได้ในชั่วข้ามคืน!!!






          มันเทศช่วยให้ลดน้ำหนักได้ 3 กิโลได้ในชั่วข้ามคืน!!! กินเวลา 9.00 – 11.00 น. จะทำให้อิ่มท้องโดยไม่เพิ่มเอว-สะโพก 
หลายคนคิดว่า “มันเทศ” เป็นอาหารประเภทแป้งยิ่งกินยิ่งเพิ่มน้ำหนัก ขอให้ลองอ่านบทความนี้ดูก่อน จะพบว่ามันเทศกลับกลายเป็นอาหารลดน้ำหนักที่ได้รับการยอมรับกันทั่วโลก มันเทศมีวิตามินเอสูง ช่วยในเรื่องการมองเห็นได้เป็นอย่างดี มีสารอาหารทรงคุณค่าที่ทำให้ตับอ่อนแข็งแรง มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินซี วิตามินบีส่งผลโดยตรงกับการลดน้ำหนัก วิตามินซี ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสวยงาม และทำให้ร่างกายแข็งแรง นอกจากนี้มันเทศยังมีโพแทสเซียม คอปเปอร์ แมงกานีส สารอาหารที่ป้องกันโรคมากมาย รวมถึงโรคมะเร็ง และยังมีเส้นใยอาหาร หรือไฟเบอร์ ในปริมาณสูงมาก ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงเหมาะมากกับการใช้เป็นอาหารลดน้ำหนัก

           ในมันเทศ 100 กรัมจะได้แคลอรี่ประมาณ 90-93 แคลอรี่ (ปริมาณความต้องการพลังงานของมนุษย์วันละ 1,800 – 2,000 กิโลแคลอรี่) อีกทั้งคนส่วนใหญ่จะกินมันเทศได้ไม่มากนัก เพราะมันเทศมีคุณสมบัติไปฟูในท้องทำให้อิ่มเร็ว  มันเทศมีอยู่หลายสี เช่นเหลืองอ่อน เหลืองจัด เหลืองส้ม และสีม่วง ทุกสีจัดเป็นแหล่งรวมวิตามินซี สารอาหาร และเส้นใยอาหาร มีข้อมูลว่า หัวมันเทศชนิดหัวสีเหลือง จัดเป็นแหล่งเบต้าแคโรทีนชั้นเยี่ยม วิตามินเอสูง อาจารย์ สุธิวัสส์ คำภา นักธรรมชาติบำบัดชื่อดัง กล่าวว่ามันเทศมีประโยชน์ในการลดน้ำหนักได้ โดยให้รับประทานในช่วงเวลา 9.00 – 11.00 น. ดร. กิลเลียน แมคคีธ นักโภชนาการอาหาร นักเขียน และพิธีกร รายการ You are what you eat จัดให้มันเทศเป็นอาหารลดหุ่นที่ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ถึง 3 กิโลกรัม ได้ในชั่วข้ามคืน  
          มันเทศเป็นแหล่งวิตามินบี 6 ช่วยบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน ช่วยให้ร่างกายผลิตพลังงานจากอาหารได้มากขึ้น และเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการลดน้ำหนัก มันเทศเป็นคอมเพล็กซ์คาร์โบไฮเดรตซึ่งปล่อยพลังงานช้า มีกากใยมาก ทำให้อิ่มท้องอยู่ได้โดยไม่เพิ่มเอวหรือสะโพก ทำให้ตับอ่อนแข็งแรง

          การกินมันเทศลดน้ำหนัก หมายถึงคุณได้กินของอร่อยๆ อิ่มท้องแต่ช่วยลดน้ำหนักได้แทนอาหารอื่น ไม่ใช่ว่าคุณจะกินอาหารเต็มที่เหมือนเดิม แล้วเสริมด้วยมันเทศนะ แบบนั้นก็ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักหรอกค่ะ... และทางที่ดีควรกิน "มันเทศต้ม หรือเผา" จะช่วยลดน้ำหนักได้กว่า มันเทศเชื่อม หรือมันเทศที่ทำเป็นขนมหวานต่างๆ
เครดิต: ชีวอโรคยา เรียบเรียงจาก www.foodslender.com 
บทความเกี่ยวกับภูมิปัญญาไทย โดย อาจารย์ สุทธิวัสส์ คำภา (นักธรรมชาติบำบัด) 
บทความ โดย ดร. กิลเลียน แมคคีธ นักโภชนาการอาหาร นักเขียน และพิธีกร รายการ You are what you eat จาก นิตยสาร Slimming มกราคม 2550 
ภาพ: ขอบคุณภาพจาก อินเตอร์เน็ต โดยนำมารวมกันเป็นภาพเดียว 

แบ่งปันความรู้ทั่วไป เพื่อความพอเพียง และสุขภาพที่ดี โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

ชีวอโรคยา อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีไม่พึ่งสารเคมี ไม่ต้องรอให้ป่วยไปเสียค่ารักษาพยาบาลแพงๆ 

ติดตามข้อมูลข่าวสารการดูแลตัวเองวิถีธรรมชาติ ไม่พึ่งสารเคมีได้ที่ Facebook ชีวอโรคยา
www.facebook.com/pages/ชีวอโรคยา/135957369811772

เผยชื่อ สมุนไพร-ผักพื้นบ้านต้านโรคเบาหวานได้




>> เผยชื่อ สมุนไพร-ผักพื้นบ้านต้านโรคเบาหวานได้ <<




           

        แพทย์แผนไทยจัดแถลงข่าว สมุนไพรใกล้ตัวและผักพื้นบ้านต้านโรคเบาหวาน (กลุ่มสารนิเทศและวิเทศสัมพันธ์ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก)

          แพทย์แผนไทย แนะ อย่ามองข้ามสมุนไพรใกล้ตัวและผักพื้นบ้านต้านโรคเบาหวาน ย้ำไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการก่อโรค เกิดภาวะแทรกซ้อนแน่นอน พบรุนแรงถึงเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 20 คน

          นายแพทย์สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมคณะร่วมแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนว่า วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี องค์การอนามัยโลก (WHO) และสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (IDF) ได้กำหนดให้เป็นวันเบาหวานโลก (World Diabetes Day) จากข้อมูลของสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (International Diabetes Federation: IDF) พบว่า โรคเบาหวานเป็นปัญหาสาธารณสุขที่เป็นสาเหตุการตายอันดับ 3 ของโรคไม่ติดเชื้อที่เป็นอันตรายถึงชีวิต โดยมีโรคแทรกซ้อนที่สำคัญจากภาวะเบาหวานซึ่งเป็นสาเหตุการตายคือ โรคไตวาย โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน บางรายประสบปัญหาตาบอด เนื่องจากจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเสี่ยงมากกว่าคนปกติถึง 25 เท่า และมีโอกาสถูกตัดขา จากแผลเนื้อตายเน่าบริเวณเท้ามากกว่าคนปกติถึง 40 เท่า 

          จากข้อมูลในปี พ.ศ. 2553 พบว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 285 ล้านคน และคาดการณ์ว่าอีก 20 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 438 ล้านคน ทั้งนี้ผู้ป่วย 4 ใน 5 เป็นชาวเอเชีย สำหรับในประเทศไทย จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในปี พ.ศ. 2553 พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวานทั้งหมด 6,855 คน หรือวันละ 19 คน คิดเป็นอัตราตายด้วยโรคเบาหวานเท่ากับ 10.8 ต่อแสนประชากร หากไม่มีการควบคุมจริงจัง คาดว่าจะมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า 

          นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน 107,225 คน คิดเป็นร้อยละ 10 โดยเป็นภาวะแทรกซ้อนทางตา ร้อยละ 38.5 ไตร้อยละ 21.5 และเท้าร้อยละ 31.6 ผู้ป่วยเบาหวานเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจหลอดเลือดและสมองสูงถึง 2-4 เท่าเมื่อเทียบกับคนปกติ และมากกว่าครึ่งพบความผิดปกติของปลายประสาทและเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ 

          นอกจากพันธุกรรมแล้ว พฤติกรรมการบริโภคอาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมหรือตัดวงจรการเกิดโรคเบาหวานได้ ตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทยใช้หลักการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงสิ่งแวดล้อม ดังนั้นผักพื้นบ้านอาหารเป็นยาจึงใช้ได้กับผู้ป่วยเบาหวาน 

          กรณีป่วยด้วยโรคเบาหวานแพทย์แผนไทยจะแนะนำให้ใช้รสชาติอาหารเป็นยาคือ รสขม ซึ่งปัจจุบันมีนักวิชาการจากองค์กรและสถาบันต่าง ๆ ทำการศึกษาวิจัยสมุนไพรและผักพื้นบ้านของไทยพบว่าหลายชนิดมีฤทธิ์ในการลดน้ำตาลในเลือด นำมาประกอบอาหารให้กับผู้ป่วยเบาหวาน ได้แก่ ตำลึง กระเทียม กะเพรา มะระขี้นก รากเตยหอม หอมใหญ่ ผักเซียงดา อบเชย หม่อน แห้ม ช้าพลู มะแว้งต้น มะแว้งเครือ อินทนิลน้ำ กรณีต้องการความหวานสามารถใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาลได้ และสมุนไพรเร่งการหายของแผลคือ บัวบก


ตรวจเลือด
      
 สำหรับคนปกติจะมีน้ำตาลในเลือด 70-100 มิลลิกรรมต่อเดซิลิตร แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีระดับน้ำตาลในเลือดเกินกว่า 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร 
          ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานคือ รับประทานอาหารมากเกินความต้องการ ขาดการออกกำลังกาย รับประทานอาหารไขมันสูง เครียด สิ่งที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามสำหรับผู้ป่วยเบาหวานคือการออกกำลังกาย เช่น การเดินแทนการใช้รถ การทำความสะอาดบ้าน และเพื่อให้ได้ผลดีคนไข้ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายในการออกกำลังกาย ก็ควรเข้าชมรมออกกำลังกายในหมู่บ้าน เช่น การรำไทเก๊ก ฤาษีดัดตน เดินกะลา โยคะ หรืออื่น ๆ หากวันไหนไม่ได้ออกกำลังกายก็ควรขยับร่างกายให้มากที่สุด เช่น การเดินในสวน การรดน้ำต้นไม้

          ทั้งนี้ ผู้ป่วยเบาหวานที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกิน 400 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ไม่ควรออกกำลังกาย แต่ถ้าอยู่ช่วง 200-400 ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ นอกจากนี้กำลังใจของผู้ป่วยเป็นเรื่องสำคัญ ลูกหลาน และผู้เกี่ยวข้องต้องคอยให้กำลังใจ เพื่อไม่ให้คนป่วยเกิดอาการเครียดและท้อแท้ โดยอาจมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่นการทำบุญตักบาตร นั่งสมาธิ ฟังเทศน์ เพื่อให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย รวมถึงการนวดเท้ากระตุ้นให้ระบบไหลเวียนโลหิตเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายลดอาการชา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณะสุข

#สุขภาพดีได้ที่นี่   #thailandonly  
ที่มา  :  https://plus.google.com/+PattananusornBlogspot/posts/KXLXTDGefVZ