วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2558

คุณรู้หรือไม่? กระเจี๊ยบแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระใกล้เคียงกับผลไม้ในตระกูลเบอรร์รี่

 

จากงานวิจัยกระเจี๊ยบแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระ

ใกล้เคียงกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

          เชื่อว่าหลายคนคงเคยทาน และหลงไหลในรสชาติอันเปรี้ยวแบบมีเสน่ห์ของผลไม้ในตระบลูเบอรรี่ แน่นอนถ้าพูดถึงผลไม้ตระกูลเบอร์รี่  คงจะหนีไม่พ้น สตอร์เบอรรี่ เพราะเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่เราคุ้นเคยและหาทานง่าย โดยเฉพาะในฤดูหนาวทางตอนเหนื่อของประเทศไทยนักท่องเที่ยวจะพากันไปสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นและสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือการไปชิมรสชาติอันหอมหวานของสตอร์เบอร์รี่
          
บลูเบอร์รี่ (Blueberry)
           หากคุณเป็นนักชิมผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ บลูเบอร์ลี่คงเป็นอีกอย่างที่พลาดไม่ได้ ด้วยรสชาติที่ไม่เหมือนใครและราคาค่อนข้างที่จะแพงทำให้มันโดดเด่น ขึ้นมาจากตัวอื่น  พบว่า มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก ประกอบด้วยปริมาณใยอาหารสูง โดยเฉพาะเพคติน ทำหน้าที่ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และฟื้นฟูความจำให้ดีขึ้นในคนชรา  นอกจาดนี้ก็จะมี แครนเบร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และอีกมากมายที่นิยมทาน  เพราะมีคุณประโยชน์โดยเฉพาะในเรื่องของสารที่ต้านอนุมูลอิสระ สถาบันวิจัยโภชนาการทางด้านสรีระศาสตร์ ได้ระบุว่าบลูเบอร์รี่จัดเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด ซึ่งผลจากการทดสอบค่าที่เรียกว่า “ORAC” (Oxygen Radical Absorbance Capacity) ได้แสดงให้เห็นว่าบลูเบอร์รี่สดจะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าผลไม้สดและผักชนิดอื่น และที่บอกว่ากระเจี๊ยบแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระนั้นจริงหรือไม้ ? 
    * ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับบลูเบอร์รี่ http://frynn.com/%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88/





กระเจี๊ยบแดง

ชื่อวิทยาศาสตร์ Hibiscus sabdariffa L.  วงศ์ Malvaceae
ชื่อสามัญ Rosella, Red Sorrel, Jamaica Sorrel
*หากอยากทราบข้อมูลของกระเจี๊ยบแดงเพิ่มเติมของกระเจี๊ยบแดงสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://naturalhealththailand.blogspot.com/2014/06/blog-post.html


           "จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ดอกกระเจี๊ยบมีสารต้านอนุมูลอิสระมากในปริมาณใกล้เคียงกับบลูเบอร์รี่ เชอร์รี่และแครนเบอร์รี่ จึงอวยประโยชน์ด้านป้องกันมะเร็ง ชะลอแก่ และช่วยให้เส้นเลือดอ่อนนิ่มน้ำต้มดอกกระเจี๊ยบแห้งมีสารแอนโทไซยานินสูง สารกลุ่มนี้เองเป็นสารหลัก (เกินร้อยละ ๕๐) ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอีก กลุ่มจะเป็นสารโพลีฟีนอลซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน สารโพลีฟีนอล ได้แก่ protocatechuic acid ไม่สลายไปเมื่อได้รับความร้อนนานๆ แต่สารแอนโทไซยานินในน้ำกระเจี๊ยบจะมีปริมาณลดลงเมื่อได้รับความร้อนต่อ เนื่องกันเป็นเวลานาน "
               ว้าวววววว...ต่อไปเราคงไม่ต้องง้อผลไม่ตระกูลเบอร์รี่กันแล้ว  ขอให้อร่อยกับน้ำกระเจี๊ยบแสนหวานให้ชื่นจนะคราบบบบ  ^^
          

 ที่มา : http://www.doctor.or.th/article/detail/1187
 


ไม่มีความคิดเห็น: